วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

Multiple Intelligences

คิดค้นโดย Howard Gardner โดยเชื่อว่าผู้เรียนมีจุดแกร่งในการเรียนรู้ที่ต่างกัน และถ้าผู้เรียนรู้จุดแกร่งของตนเองแล้วจะทำให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น  โดยความสามารถมี:
-ความสามารถในการสื่่อสารภาษา: เสียง, ความหมายและจังหวะของคำ
-ความสามารถทางด้านตรรกะศาสตร์ : มีความสามารถในหารคิดโดยมีหลักการ
-ความสามารถทางดนตรี: ความสามารถในการออกเสียง จังหวะที่เหมาะสม 
-ความสามารถในการจินตนาการ: ความสามารถในการคิดในการจินตนาการและจดจำเป็นรูปภาพ
-ความสามารถในการมีมนุษยสัมพันธ์: ความสามารถในการโต้ตอบกับอารมณ์ที่เหมาะสม
-ความสามารถในความเข้าใจตนเอง: ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึก คุณค่า  ความเชื่่อและ กระบวนการคิดในตนเอง
-ความสามาถในความเข้าใจธรรมชาติ: พืช สัตว์ และสิ่งอื่นทางธรรมชาติ
-ความสามารถในความเข้าใจการมีชีวิต: สามารถตอบคำถามที่ลึกซึ้งของการมีชีวิตอยุ่ของมนุษย์ได้

Whole Language Approach

-เน้นการสอนภาษาจากภาพรวม
-ทดสอบโดยใช้การอ่านและการเขียน
-มีสองทักษะการเขียนที่เหมาะกับกานสอนแบบWhole language leaarning:
  -process writing: กระบวนการเขียน
  -journal keeping: สิ่งที่นักเรียนอยากจะสื่อสารกับครู(ครูเขียนตอบโต้โดยไม่เน้นความถูกผิดในการเขียน)


Cooperative Learning

Cooperative learning หรือการเรียนแบบร่วมมือ
-ครูไม่เพียงสอนภาษาแต่ยังสอนให้ทำงานกันเป็นกลุ่มอีกด้วย
-นักเรียนมักจะเรียนกันในกลุ่มเดิมในช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อที่จะเรียนรู้การทำงานร่วมกันให้ดีขึ้น
-แม้ว่านักเรียนจะทำงานกันเป็นกลุ่มแต่นักเรียนแต่ละคนก็มีงานเดี่ยวไห้รับผิดชอบ
-ความรับผิดชอบและความสามารพในการเรียนรู้ซึ่งกันและกันจะได้ร่วมกันแบ่งปัน
-สมาชิกแต่ละคนของกลุ่มควรถูกกระตุ้นให้มีความรับผิดชอบ


Task-Based Instruction(TBI)

 -TBI เน้นในเรื่องของภาษาที่ใช้ในสถานการณ์จริงและงานที่ใช้ภาษาเป้าหมาย ใช้ภาษาเพื่อทำงานให้สำเร็จ
- การประเมินจะประเมินจากงานมากกว่าความถูกต้องของรูปแบบภาษา
-เป็นที่นิยมในการพัฒนาความคล่องแคล่วและความมั่นใจของนักเรียนในการใช้ภาษาเป้าหมาย
-กิจกรรมการเรียนรู้มีจุดประสงค์และผลงานที่ชัดเจน
-นักเรียนทำงานก่อนเรียนที่เหมือนกันพร้อมกันก่อนที่จะทำงานในลักษณะเดียวกันนี้รายเดี่ยว
-ครูสอนโดยแบ่งเป็นเนื้อหาทีละขั้นละเอียดขึ้นเรื่อยๆเพื่อฝึกกระบวนการคิดที่เป็นเหตุเป็นผลแก่ผู้เรียน
-ครูใช้ทุกภาษาที่ทำให้นักเรียนเข้าใจได้
-ครูแก้ไขความผิดพลาดในการใช้ภาษาเป้าหมายของผู้เรียนโดยการกล่าวซ้ำในรูปแบบที่ถูกต้อง
-ใช้jigsaw task เพื่อพัฒนนาทักษะการพูดและการฟัง
-นักเรียนได้รับผลตอบรับในความสำเร็จในการเรียนภาษาโดยการได้รับคะแนน

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

Content-Based Instruction(CBI)

เป้าหมายของการเรียนแบบCBI หรือภาษาอังกฤษเฉพาะกิจ คือเตรียมผู้เรียนเรียนรู้ภาษาจากบทความของแต่ละวิชา และใช้สื่อการเรียนรู้แบบของจริง มีหลักการที่น่าสนใจดังนี้
-เนื้อหาของรายวิชาใช้ตามจุดประสงค์การสอน
-ครูจะสร้าง/ทบทวนบทเรียนจากความรู้เดิมของผู้เรียน
-ครูสอนเนื้อหาจากง่ายไปสู่เนื้อหาที่ยากขึ้นตามลำดับ
-ผู้เรียนเรียนภาษาและเนื้อหาภายในเนื้อหาของสื่อการสอนจริงและงานจริ
-ความสามารถในการสื่อสารมีทั้งความสามารถในการอ่าน อภิปราย เขียนเกี่ยวกับบทความโดยการบูรณาการจากวิชาอื่นๆ

Community Language Learning

Community language learning ได้รับการคิดค้นโดย Charles A.Curran (1960) ครูทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ให้คำปรึกษาทางด้านภาษา มีหลักการที่น่าสนใจดังนี้
-นักเรียนเปรียบเสมือนผู้รับคำปรึกษา
-ครูเปรียบเสมือนผู้ให้คำปรึกษา
-ไวยากรณ์และคำศัพท์ได้รับการสอนเป็นแบบสอนเนื้้อหาก่อนแล้วเน้นโครงสร้างหรือความหมายทีหลัง
-"Chunk"ของการสอนภาษาเป้าหมายเกิดขึ้นโดยการบันทึกเสียงพูดบทสนทนาของนักเรียนก่อนแล้วค่อยแปลเป็นภาษาแม่
-นักเรียนใช้ภาษาเป้าหมายมาใช้ดดยไม่มีการแปลเมื่อเขารู้สึกมั่นใจพอว่าจะทำได้
-นักเรียนถูกกระตุ้นให้ออกความคิดเห็นว่ารู้สึกอย่างไรกับการเรียนภาษาบ้าง
-ใช้กิจกรรมที่หลากหลายสอนไวยากรณ์และการออกเสียง

Suggestopedia


Suggestopediaได้รับการคิดค้นในช่วงปลายคริสตศักราช 1970s โดย Georgi Lozanovซึ่งเขามีความเชื่อว่าการเรียนภาษาควรเกิดขึ้นแก่ผู้เรียนตั้งแต้ยังเด็กมากเท่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  โดยมีหลักการที่น่าสนใจเกี่่ยวกับการสอนแบบ Desuggestopedia ดังนี้
-การเรียนรู้ควรจัดบรรยากาศให้ผู้เรียนรูสึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย
-ถ้านักเรียนมีความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของครูผู้สอน นักเรียนก็ได้รับเนื้อหาข้อมูลได้ดีมากยิ่งขึ้น
-ใช้ภาษาแม่ในการแปล
-ความผิดพลาดเล็กน้อยในการเรียนภาษาให้อภัยกันได้

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

Total Physical Response(TPR)


Total Physical Response หรือ การสอนโดยใช้ภาษาท่าทางได้รับการคิดค้นโดยJames Asher สิ่่งสำคัญของการเรียนแบบTPR ก็คือการเรียนรู้นั้นเน้นความสนุกสนานและไม่เครียด ซึ่งJames Asher ได้คิดค้นวิธีกาารเรียนรู้แบบธรรมชาติที่เป็นลักษณะสำคัญได้แก่
-เน้นทักษะการฟังและทักษะทางกายภาพ
-เน้นการสอนไวยากรณ์และคำศัพท์
-เน้นการสื่อสารโดยภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน
-ใช้คำสั่งในการสอนแล้วให้นักเรียนปฏิบัติตาม
-แทรกความตลกขบขันเข้าไปในบทเรียนเพื่อให้การเรียนรู้ของนักเรียนสนุกสนานมากยิ่งขึ้้น
-นักเรียนจะพูดภาษาเป้าหมายเมื่อรู้สึกว่าพร้อมและมั่นใจพอที่จะพูด